เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาร้านอาหาร – หากมีสิ่งหนึ่งที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อร้านค้าปลีกหรือร้านอาหารนั่นคือการกำหนดตารางเวลาพนักงาน พนักงานจำนวนมากเกินไปอาจเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร และพนักงานที่น้อยเกินไปก็อาจสร้างการบริการให้เกิดความประทับใจต่อลูกค้าได้ไม่ดีพอ

อย่างไรก็ตามพนักงานน้อยเกินไปอาจส่งผลให้ลูกค้าผิดหวังกับการบริการที่ไม่ดี และความเหนื่อยล้าบ่อยครั้งของพนักงานที่มีจำนวนน้อยเกินไป จะเกิดภาระและหน้าที่ที่มากตามไปด้วย ทำให้ยากที่จะสร้างสมดุลการทำงานที่สมบูรณ์แบบ จนส่งผลออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนว่าร้านของคุณไม่มีพนักงานเพียงพอที่จะบริการให้ดี

 

ปัญหาต่าง ๆ ที่สามารถพบเจอได้บ่อยครั้ง

  1. คิวยาวมาก

การที่ร้านของคุณมีลูกค้ามาต่อแถวจนคิวยาว ก็สามารถมองได้ว่าร้านของคุณมีสินค้าที่ดีหรืออาหารที่อร่อยจนลูกค้าติดใจ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับร้านค้าร้านหนึ่ง แต่ก็ถือว่าเป็นดาบสองคม หากปล่อยให้ลูกค้าต่อแถวยาวๆ ทุกครั้งที่มาใช้บริการ จะเกิดการสะสมของความรู้สึกว่า “อยากกินร้านนี้นะ แต่ถ้าต้องรอจนรากงอกก็ไม่เอาแล้ว เบื่อ!!” นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของความรู้สึกของใครหลายๆ คนก็ได้ที่ต้องรออะไรสักอย่างที่น่าเบื่อ และเสียเวลา

แล้วหากมีพนักงานไม่เพียงพอต่อการให้บริการลูกค้าจำนวนเยอะๆ อีกด้วย เช่น พนักงาน 5 คน ต่อลูกค้า 20 คน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่พนักงาน 5 คนนี้ จะบริการลูกค้าทั้งหมดได้ดีเท่าๆ กัน ก็กลายเป็นการตอบรับลูกค้าที่เป็นผลเสีย และเป็นผลกระทบกับร้านในระยะยาว

  1. ความผิดหวังของลูกค้า ออกอาการให้เห็นบ่อยๆ

อาจเป็นได้ทั้งพนักงานหรือลูกค้า หากคุณพบว่าคุณได้รับข้อร้องเรียนจากลูกค้าจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการบริการนี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการจัดตารางพนักงานสามารถปรับปรุงได้ เช่นเดียวกันกับการปะทุของพนักงาน – หากการปะทะกันทางอารมณ์และความขัดแย้งเกิดขึ้นบ่อยครั้งนี่เป็นเพราะพนักงานของคุณรู้สึกหนักใจและรู้สึกกดดัน

กรณีนี้อาจเป็นได้ทั้งพนักงานเราเองหรือลูกค้าที่มารับบริการ หากคุณที่เป็นถึงเจ้าของร้านหรือผู้จัดการร้านได้รับข้อร้องเรียนจากลูกค้าบ่อยครั้งและมากขึ้นเรื่อยๆ จากการบริการของพนักงาน เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าร้านของคุณให้การบริการที่ไม่น่าประทับใจ บางครั้งอาจเกิดการประทุอารมณ์ของพนักงาน ระหว่างพนักงานที่ล้าต่อการทำงาน กับลูกค้าที่ผิดหวังในการบริการที่ล่าช้า กลายเป็นความขัดแย้งและเกิดการเสียลูกค้าไปในสักวันหนึ่ง

  1. ความผิดหวังและสูญเสียลูกค้า

หากคุณสูญเสียลูกค้าเพราะพวกเขาไม่สามารถไปถึงจุดส่งมอบเงินสดหรือไม่สามารถหาสิ่งที่พวกเขาต้องการเพราะไม่มีใครช่วยเหลือพวกเขามันอาจถึงเวลาที่ต้องประเมินความต้องการพนักงานใหม่

หากคุณกำลังสูญเสียลูกค้า เพราะการบริการที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของลูกค้า ไปไม่ถึงจุดที่ลูกค้าจะชำระเงินหรือมาใช้บริการอีกครั้ง อาจถึงเวลาที่ต้องประเมินการให้บริการและความต้องการของพนักงานใหม่

  1. อาการป่วยและความล่าช้าของพนักงาน

ทุกคนล้วนแล้วแต่มีวันที่มาทำงานสาย และวันที่ลาป่วย อย่างไรก็ตามหากคุณพบว่าพนักงานของคุณมาสาย และจำนวนวันลาป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนนี้ อาจเป็นอาการของบางอย่างที่ร้ายแรง

หรือที่ใครหลายคนเข้าใจว่าเป็นอาการหมดไฟและหมดแรงจูงใจในการทำงาน อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียดจากงาน ทำงานหนักเกินไป หรือทำงานที่ไม่ตรงกับแนวทางของตนเอง เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุมาจากอะไรก็ตาม ก็ส่งผลเสียต่อการให้บริการลูกค้าแน่นอน

  1. ความคิดเห็นเชิงลบออนไลน์

ลูกค้าที่มีประสบการณ์ไม่ดีในร้านจะออนไลน์เพื่อเขียนคำวิจารณ์ ระดับการจัดพนักงาน – และความสุขของพนักงาน – มีส่วนร่วมโดยตรงกับประสบการณ์ของลูกค้าดังนั้นที่คุณเริ่มได้รับความคิดเห็นเชิงลบมากมายออนไลน์อาจเป็นไปได้ว่าพนักงานน้อยเกินไปที่จะตำหนิ

ลูกค้าที่เคยมาใช้บริการในร้าน ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีต่อร้าน ซึ่งในยุคดิจิทัลก็จะส่งผล Feedback ไปยังโลกออนไลน์ ถ้าเป็นเรื่องดีก็โชคดีไป แต่ถ้าเป็นไปในทางลบ ก็กลายเป็นผลเสียกับทางร้าน อาจเป็นไปได้ว่าพนักงานมีน้อยเกินไป ก็จะตำหนิต่างๆ นาๆ ผ่านสื่อออนไลน์

  1. การหมุนเวียนพนักงาน

ทั้งเวลา ประสบการณ์ และค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปกับการจ้างพนักงาน กว่าจะได้พนักงานที่มีคุณภาพสมบูรณ์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ก็เสี่ยงไม่รู้ว่าจะอยู่กับเราได้นานแค่ไหน ไม่ว่าจะธุรกิจด้านใดๆ ก็ตาม ก็ต้องรับสมัครงานอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้ยาก และเสียทรัพยากรณ์อย่างมากในการดูแลพนักงาน

วิธีแก้ปัญหา โดยใช้ เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาร้านอาหาร

ด้วยประสบการณ์ที่พบเจอมาต่างๆ มากมาย ในการที่ร้านอาหารร้านหนึ่งมีพนักงานที่น้อยเกินไป ย่อมเกิดปัญหาสารพัดเข้ามาด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ย่อมส่งผลเสียต่อทางร้านเอง ขาดทั้งการบริการที่ดี และความผิดหวังที่จะเกิดเป็นประสบการณ์ที่อคติต่อร้านนั้นๆ ไม่มากก็น้อย

ด้วยยุคดิจิทัล ก็ควรจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมการให้บริการ ให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดีต่อร้าน เกิดการยอมรับว่าร้านนี้ให้การบริการที่เหมาะสมตามความต้องการที่ได้คาดหวังไว้ เราควรมีเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอย่างเช่น

การต่อคิวแถวยาวๆ – เครื่องกดบัตรคิว เครื่องคิวเพจเจอร์ เป็นต้น

%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%84%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%aa%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%a1

ยกตัวอย่าง คิวเพจเจอร์ ที่เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย ในกลุ่มงานที่ไม่มีการใช้งานเฉพาะด้าน เช่นร้านอาหาร หรือสถานที่ที่มีการใช้คิวธรรมดา ไม่มากนัก โดยเน้นไปในการช่วยอำนวยความสะดวก และ ลดปัญหาจากระบบคิวเดิมๆ เช่นการเรียกชื่อ ที่อาจจะไม่ได้ยินกรณีที่ผู้รับบริการอยู่ในสถานที่ ที่มีเสียงรบกวน และลบจุดด้อยในค่าใช้จ่ายจากอุปกรณ์สิ้นเปลืองต่างๆ ซึ่งแตกต่างกับระบบคิวแบบทั่วไป โดยระบบคิวแบบเพจเจอร์เป็นระบบคิวที่สามารถเตือนผู้ที่รอคิวได้ทันทีเมื่อถึงคิว ทำให้ระบบคิว แบบเพจเจอร์ เป็นอีกหนึ่งระบบที่กำลังได้รับความรับนิยมในหมู่งานระบบโรงพยาบาล ระบบร้านอาหาร ระบบโรงแรม

ลูกค้ารู้สึกสะดวก สบาย รวดเร็วในการให้บริการ – อุปกรณ์เรียกพนักงาน

ระบบเพจเจอร์เรียกพนักงาน

ยกตัวอย่าง ระบบเรียกพนักงานไร้สายแบบนาฬิกา เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เริ่มมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในร้านอาหาร หรือภัตตาคารต่างๆ ซึ่งระบบนี้เป็นระบบส่งสัญญาณแบบไร้สาย เซตนี้จะเป็นการทำงานของเครื่องส่งสัญญาณกับตัวรับสัญญาณที่มาในรูปแบบนาฬิกาข้อมือ ที่สามารถเตือนที่พนักงานที่ใส่ได้ทั้งแบบเสียงและแบบสั่น

ลูกค้าสามารถกดปุ่ม(ที่อยู่บนโต๊ะของท่าน) เพื่อเรียกพนักงาน เพื่อที่จะทำการ สั่งอาหาร, ชำระเงิน หรืออื่นๆ ตามที่ต้องการได้